My experiences

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วัยรุ่นกับวันวาเลนไทน์

วัยรุ่นกับวันวาเลนไทน์ 
อัมพร บุญตัน (tyap@loxinfo.co.th) - [ 17 ก.พ. 47, 10:57 น. ] 
ก่อนจะพูดถึงอะไรทั้งหมด อยากจะให้เราเริ่มทำความเข้าใจเรื่องกันก่อนว่า การมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เช่นเดียวกับสัตว์อื่น ๆ แต่ที่มนุษย์ต้องคิดต้องระวังมากกว่าคือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งทางกายใจและสังคม เพราะเราเชื่อว่ามนุษย์ เป็นสัตว์ประเสริฐ ส่วนในสัตว์การมีเพศสัมพันธ์เป็นไปเพื่อสืบทอดเผ่าพันธ์ หรือสนองอารมณ์ความรู้สึกด้วยก็ได้ แต่เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย หรือไม่สนใจเลย เพราะเราไม่ใช่สัตว์ และไม่อยากถูกเรียกว่าสัตว์ แม้พวกผู้ชายที่ไปมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เขาไม่ยินยอมหรือยกพวกไปมีอะไรกับเขาทีละหลาย ๆคน ก็อาจจะถูกเรียกว่า ..สัตว์ อันนี้ไม่ขออธิบาย
อีกเรื่องคือธรรมชาติการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจตามวัย ในช่วงอายุ10 ปี ขึ้นไปจะเริ่มมีประจำเดือน มีความอยากรู้อยากลอง และการต้องการการยอมรับ คนอื่นมีแฟน เราก็อยากมีแฟน ฯลฯ
สรุปว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต วัยรุ่นเป็นสิ่งมีชีวิต จึงมีเพศสัมพันธ์ ตามธรรมชาติ

เด็กสมัยนี้หลงค่านิยมตะวันตก ?

สมัยก่อนเด็กจบ ป.4 จะใช้ชีวิตกับเรียนรู้อาชีพวิถีชีวิต การเข้าสังคมจากครอบครัว ตอนเย็นลูกชาวนาก็หากบ หาเขียดมาเป็นอาหาร มีพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน ช่วยดูแล แหล่งบันเทิงคืองานวัด คนในชุมชนเห็นอะไร ไม่เหมาะสม ก็มาบอกพ่อ แม่ พ่อแม่ก็จะหาทางบอกลูกอย่างระมัดระวัง

แต่ตอนนี้สังคมเปลี่ยนไป เด็กอยู่ห่างครอบครัว อยู่กับครูในโรงเรียน ครูกวดวิชา ที่ไม่มีหลักสูตรการสอนเรื่องทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม เข้าใจวัฒนธรรมดั้งเดิมและการใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับยุคสมัย ในโรงเรียนมีการสอนความทันสมัยที่ใส่ใจเปลือก แต่ไม่มีแก่น เช่นการใช้คอม ฯลฯ สภาพครอบครัวและสังคมก็มีความแตกต่างไปจากเดิม พ่อแม่ต้องทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว ไม่มีเวลา ใส่ใจ ให้เวลาสั่งสอน กล่อมเกลาลูกอย่างที่เคยเป็น

โลกมีพัฒนาการก้าวหน้าไปมาก ทั้งด้านข้อมูลข่าวสาร ทุกบ้านมีทีวี วิทยุ มีเครื่องมือสื่อสาร มีข้อมูลข่าวสาร โฆษณาสินค้าที่มีเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเป้าหมาย ในช่วง วาเลนไทน์ มีกิจกรรมมากมาย เช่นรับจดทะเบียนสมรส จัดงานเทศกาลแห่งความรัก ตามสถานบันเทิง มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนออกมาใช้บริการ ควักเงิน ซื้อของที่ระลึกให้กับคนรัก

เมื่อเปรียบเทียบวันวาเลนไทน์กับวันอื่น ๆ ที่มีความเป็นตะวันออกในสังคมไทย เช่นวันสำคัญทางศาสนา วันรัฐธรรมนูญ ฯลฯ วันเหล่านี้ มีการรณรงค์ให้หยุด อยู่บ้าน เข้าวัด ทบทวนชีวิต ความคิด อุดมการณ์ งดดื่มเหล้า หรือขอให้ปิดสถานบริการเพื่อเป็นพุทธบูชา ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของสังคมไทย แต่กลับไม่คึกคัก

จะเห็นว่าวันวาเลนไทน์ เป็นเรื่องจับต้องได้ โดนใจวัยรุ่น ผู้ใหญ่ก็ทำหรือใคร ๆ ก็ทำ ทำแล้วได้รับการยอมรับ นอกจากวันวาเลนไทน์ก็มีวันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกะวัฒนธรรมไทย เช่นวันลอยกระทง วันสงกรานต์ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ ไม่มีใครบอกว่ามันเป็นวัฒนธรรมตะวันไหน แต่ที่สำคัญวันวาเลนไทน์ที่ทำให้มีเงินสะพัด คนได้เงินกันถ้วนทั่ว ตั้งแต่เจ้าของธุรกิจการสื่อสารระดับโลก จนถึงลุงนวลชาวสวนกุหลาบ คนขายเหล้าตองข้างทาง คนต้มเหล้าพื้นบ้าน ทุกคนชอบเงินแต่ไม่ชอบวัฒนธรรมตะวันตันวันตก ขอฟันธงว่าวันวาเลนไทน์บูม วันอื่นไม่บูมเพราะไม่สอดคล้องกับยุคสมัยของโลกยุควัตถุนิยม 


เด็กเสียตัวในวันวาเลนไทน์ ??
เราท่านรู้ดีว่าเด็กเขามีอะไรกันได้ทุกวัน มีได้ทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ในห้องเรียน วันวาเลนไทน์ เป็นเงื่อนไขให้วัยรุ่นได้อยู่ด้วยกัน เป็นโอกาสให้ชายได้ขอมีอะไรกับหญิง โดยอ้างความรักให้เกิดความชอบธรรม ซึ่งผู้ชายก็ใช้วิธีนี้ในวันอื่น ๆ ด้วย และผู้หญิงก็ยอม เพราะความรัก เพราะวิธีคิดของชายหญิงก็ยังต่างกัน สังคมไทยไม่สอนให้ชายมีความรับผิดชอบ แต่สอนให้หญิงต้องรับผิดชอบ มีเพศสัมพันธ์กันผู้ชายได้ ผู้หญิงเสียตัว วันวาเลนไทน์นี้เด็กผู้หญิงก็ถูกตราหน้ามากกว่าเด็กผู้ชาย เคยถามไหม ว่าทำไม?? 

ถ้านึกย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อน หรือถ้าอ่านประวัติศาสตร์ไทยจะพบข้อมูลน่าสนใจ ว่าคนไทยแต่งงานอยู่กินกัน ตอนอายุ 14-15 ปี จึงมีองค์การระดับโลกรณรงค์ว่าการมีลูกมากจะยากจน และรณรงค์ให้คนไทยแต่งงานอายุ 20 ปี ขึ้นไป การมีเพศสัมพันธ์ช่วงอายุ 14-15 ปี เป็นเรื่องเก่า แต่คนยุคนั้นเรียนรู้การมีครอบครัวจากความเป็นชุมชน ตอนนี้เราขยายโอกาสทางการศึกษา ให้เด็กเรียน 12 ปี เด็กอยู่กับครูในโรงเรียน คำถามคือ ครูหรือระบบโรงเรียนยุคนี้ได้เตรียมให้ความรู้เรื่องครอบครัวกับวัยนี้หรือไม่

กิจกรรมวันวาเลนไทน์
กิจกรรมในช่วงวาเลนไทน์ มีที่ขาดไม่ได้คือการรณรงค์แจกถุงยางอนามัย และการ รณรงค์ “ไม่เสียตัว” สองแนวคิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันเอดส์ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด มีผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าการแจกถุงยางเป็นการชี้โพรงให้กระรอกและสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น คนทำงานก็มีเหตุผลว่าห้ามวัยรุ่นไม่ได้ สิ่งที่เป็นปัญหาคือการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ปลอดภัยและไม่รับผิดชอบ และเราไม่ได้เตรียมเด็กให้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเพศ ไม่ได้ฝึกให้คิดใคร่ครวญ จัดการหาทางออกที่ปลอดภัย ให้ทันกับยุคสมัย การแจกถุงยางเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำเฉพาะหน้าเพื่อให้คนปลอดภัย ส่วนการรณรงค์ให้เยาวชนไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องสวนทางธรรมชาติและต้องทำระยะยาว
สิ่งที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นในยุคนี้ ตอนนี้ เป็นผลพวงของปัญหาสังคมที่สะสมมายาวนาน คำว่า ”ยุคนี้คนมีความเจริญทางวัตถุแต่มีจิตใจเสื่อมลง” มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่ใช่เด็กยุคนี้จิตใจเสื่อม แต่สังคมมันเสื่อมมานาน และเห็นผลชัดเจนในยุคสมัยนี้ ดังนั้นในวันวาเลนไทน์นี้ ไม่ใช่เด็กไทยหลงไหลวัฒธรรมตะวันตก แต่เป็นเพราะวันวาเลนไทน์สอดรับกับกระแสทุนนิยมที่มาจากตะวันตก อย่างแนบเนียน ทุนนิยมมุ่งเป้ามาที่วัยรุ่น วัยรุ่นไทยเป็นเพียงเหยื่อของทุนนิยม และเป็นเหยื่ออารมณ์ความขัดแย้งของสองอุดมการณ์ ที่ไม่เคยลงรอยกัน
ถ้าเราที่เป็นผู้ใหญ่หวังดีกับวัยรุ่นจริง ๆ เราน่าจะต้องปรึกษาหารือกันมากขึ้น เราคงต้องทำความเข้าใจพื้นฐาน ธรรมชาติของวัยรุ่น เข้าใจวิธีคิดสถานการณ์และความขัดแย้งในสังคมไทยและสังคมโลก ร่วมกันหาวิธีการสร้างทางเลือก สร้างความปลอดภัยแก่วัยรุ่นที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
หรือว่าเราจะปล่อยให้ ไอ้เด็กน้อยทั้งหลาย ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของสังคมต่อไป
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ (ย้อนหลัง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น